
“เกาสง” พิกัดเที่ยวมาแรงแห่ง “ไต้หวัน”
สวัสดีค่ะ \(^ヮ^)/
เดือนที่ผ่านมาถือเป็นเดือนฮ็อตของ “ไต้หวัน” จริงๆ
ถ้าใครได้ติดตามกันทาง Facebook จะเห็นว่าไต้หวัน มีงานนิทรรศการและงานโปรโมทหลากหลายแขนง
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการท่องเที่ยว การศึกษาหรือ ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม (°◡°♡)
เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โอเองได้ที่โอกาสไปร่วมงานโปรโมทการท่องเที่ยว “เกาสง” ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของไต้หวัน
ซึ่งเป็นนี้เป็นครั้งที่ 2 จัดที่เซ็นทรัลเวิลด์เช่นเคย – – เป็นงานของการท่องเที่ยว ที่มีการเชิญหน่วยงานและองค์กรที่น่าสนใจมาพบปะกับชาวไทย มีการแสดงทั้งจากนักร้องชื่อดังและ การโชว์ศิลปะการต่อสู้แบบโบราณด้วย
ถึงแม้ว่าโอจะได้ไปเล่าและแชร์เกี่ยวกับประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองท่าทางใต้สำคัญอย่าง “เกาสง” แต่เสียดายที่เวลามีจำกัดเลยไม่สามารถพูดถึงได้ทุกประเด็นอย่างที่ใจอยาก
เอนทรี่นี้เลยอยากชวนเพื่อนๆล่องใต้ ไปเที่ยวด้วยกันต่อ (♡˙︶˙♡)
เรามาทำความรู้จัก “เกาสง” และการเดินทางมายังเมืองท่าสวยงามของ “ไต้หวัน” แห่งนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ!
“เกาสง” อยู่ห่างจาก “ไทเป” ประมาณ 400 กิโลเมตร
การเดินทางจากเหนือ (ไทเป) ลงใต้ (เกาสง) มีหลายออปชั่นให้เลือก
1.รถยนต์ – รถประจำทางสาธารณะ
ฝั่งซ้ายของเกาะไต้หวันมีเส้นทางไฮเวย์สะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรในวันนั้นๆ
มีรถประจำทางสาธารณะให้บริการวิ่งตรงจากไทเปไปเกาสงทุกวัน วันละหลายรอบ เลือกกันได้ตามความสะดวก
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.taiwanbus.tw
2.รถไฟธรรมดา (TRA)
รถไฟวิ่งให้บริการเชื่อม 2 เมืองหลักนี้มีด้วยกันหลายประเภทและหลายรอบต่อวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
แต่ละขบวนใช้เวลาเดินทางแตกต่างกันไป ไล่มาตั้งแต่ไม่ถึง 5 ชั่วโมงไปจนถึง 8 ชั่วโมง ราคา เริ่มต้นที่ 650 ถึง 843NTD
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.railway.gov.tw
3.รถไฟความเร็วสูง (THSR)
สำหรับใครที่มีเวลาไม่มากแต่อยากแวะไปเที่ยวเมืองทางใต้แนะนำให้ใช้วิธีนี้ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นมาหน่อยแต่ถ้าเทียบกับระยะเวลาที่ประหยัดไปได้ก็คุ้มค่า
จากไทเปเลือกปลายทางไปลงสถานี Zhuoying ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสำคัญของการคมนาคมเชื่อมต่อกับใจกลางเมืองเกาสงเลยทีเดียว
สถานี Zhuoying เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดิน (KRTC) เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว เราสามารถฝากกระเป๋าและสัมภาระไว้ในล็อกเกอร์ ในสถานีแล้วไปเที่ยวต่อได้เลยไม่เสียเวลา
การเดินทางด้วยรถไฟแบบความเร็วสูงใช้เวลาตั้งแต่ 1.5 – 2 ชั่วโมง 15 นาที ขึ้นอยู่กับขบวนที่เลือก
ห้องโดยสารมีด้วยกัน 2 แบบ ทั้ง Standard และ Business Class ห้องโดยสารแบบ Standard สามารถจองตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง จะประหยัดสตางค์ไปได้อีกนิด แต่ถ้าใช้บริการช่วงคนแน่นๆอาจจะต้องยืนมา ถ้าให้ชัวร์ ระบุจองแบบมีที่นั่งแน่นอนกว่า
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thsr.com.tw
4.เครื่องบิน
หากวางแผนที่จะมาเที่ยวเมืองทางใต้ เช่นเกาสง ไถหนาน ผิงตง ไถตง อีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนมองข้าม คือการเลือกใช้บริการสายการบินที่บินตรงจาก “กรุงเทพ” มาลงที่ “เกาสง”
เช่นสายการบินแห่งชาติของ “ไต้หวัน” อย่าง China Airlines ซึ่งมีเที่ยวบินทุกวัน
ใช้เวลาเดินทาง 3.5 ชั่วโมง ทานอาหาร 1 มื้อ ดูหนัง 1 เรื่องแป๊บเดียวถึงแล้ว
ข้อดีของการบินตรงมาลงที่ “เกาสง” นอกจากประหยัดเวลา ยังสะดวกเรื่องการเดินทางไปยังใจกลางเมือง
สถานีรถไฟใต้ดินของที่นี่อยู่ด้านล่างของสนามบินเลย ไม่ว่าจะใช้บริการ ของรถไฟใต้ดิน (KMRT) ที่นำพาเราไปยังสถานที่เที่ยวไฮไลท์ต่างๆรอบเมือง หรือรถไฟความเร็วสูง (THSR) ที่เชื่อมต่อเมืองสำคัญต่างๆของไต้หวันก็สามารถทำได้ไม่มีสะดุด ♡ ~(‘▽^人)
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.china-airlines.com
การเดินทางครั้งที่ผ่านมาและมีโอกาสแวะไปใช้บริการ Business Lounge ของสายการบิน China Airlines เลยเก็บภาพมาฝากกันค่ะ (เห็นว่าเพิ่งปรับโฉมกันไป)
เงื่อนไขในการใช้เลาจน์
1. ผู้โดยสารถือตั๋วชั้นธุรกิจ
2. ผู้โดยสารเป็นสมาชิกของ China Airlines สถานะบัตร Gold, Emeral, Paragon หรือสมาชิกในเครือพันธมิตร Skyteam ที่มีสถานะเป็น Elite และ Elite Plus
บรรยากาศฝั่งไต้หวัน (ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน)
บรรยากาศฝั่งไทย (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
การเดินทางท่องเที่ยวหลังจากมาถึง “เกาสง” หลักๆมีด้วยกันหลากหลายช่องทาง
(*^‿^*) |
1.รถไฟฟ้า (KRTC)
รถไฟฟ้าของ “เกาสง” ใช้งานง่ายไม่ต้องกลัวหลง มีอยู่แค่ 2 สาย (สีแดงและสีส้ม)
ที่ชอบใจสุดๆคือสถานีของรถไฟฟ้ามีจุดเริ่มต้นอยู่ที่สนามบินเลย ลงเครื่องมาปุ๊บกระโดดขึ้นรถไฟเที่ยวได้ต่อ ประหยัดเวลามากๆ
# สามารถนำสัมภาระไปฝากที่ล็อกเกอร์ตามสถานีได้ ถ้ายังไม่ไปเช็คอินที่โรงแรม
# ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล สามารถใช้บัตรเดินทางสารพัดประโยชน์ iPass และ Easycard จ่ายค่าบริการได้
2. รถไฟรางเบา (LRT)
บริการน้องใหม่สายสีเขียวที่จะพาเราไปเที่ยวสถานที่ฮิปต่างๆ ให้บริการตั้งแต่ 7.00 ถึง 22.00 น. (ทุก 15 นาที)
ตอนนี้เปิดให้บริการด้วยกัน 14 สถานี (C1-14) ในอนาคตจะขยายไปจนถึง C37
ค่าบริการ 30NTD ตลอดสาย (ตอนนี้ยังเป็นราคาโปรโมชั่น 10NTD ตลอดสาย)
* ตอนนี้ “เกาสง” มีบัตรท่องเที่ยวโดยสาร K. P. P. PASS ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้เดินทางท่องเที่ยวแบบรายวันโดยมีแพ็คเกจต่างๆกันไป
บัตรใบนี้ออกแบบมาเพื่อนักเดินทางโดยเฉพาะ มีทั้งแบบ 1-Day และ 2-Day Pass รวมเรื่องการเดินทางไว้หมดไม่ว่าจะเป็น รถไฟ รถราง เรือโดยสาร หรือแม้แต่บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
ราคาของบาทแต่ละแบบต่างกันไปแต่ที่แน่ๆสามารถประหยัดได้ถึงเกือบ 50% เลยทีเดียว
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.funcard.tw
3. รถบัส
มีให้เลือกทางรถบัสหวานเย็นธรรมดาแบบที่วิ่งตามสายจอดทุกป้าย และบัสชมเมืองที่จะพาเราไปสอดส่องเฉพาะจุดไฮไลท์สำคัญ
# ข้อดีของบัสชมเมืองคือชั้น 2 เป็น Open-Air เปิดประทุน สามารถเห็นวิวกันได้แบบไม่มีกระจกบังตา
>> ตรวจสอบเส้นทางรถบัสได้ที่ www.ibus.tbkc.gov.tw
4. จักรยานสาธารณะ (City Bike)
จักรยานสาธารณะมีให้ยืมอยู่ทั่วเมือง สามารถยืมจากสถานีหนึ่งแต่ไปคืนอีกสถานีหนึ่งได้ ไม่ต้องนำกลับมาคืนที่เดิม
ค่าบริการก็แสนเป็นมิตร 30 นาทีแรกฟรี ครึ่งชั่วโมงถัดมาคิด 5NTD (จากนั้นเป็น 10-20NTD/ ชม.)
สามารถจ่ายค่าบริการได้ด้วยบัตร iPass หรือเครดิตการ์ด
5.Cultural Bus
Cr: ภาพ: Kaohsiung City Government
รถบัสคันนี้พาเราไปเที่ยวรอบๆเมือง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ วัด ตลาดปลาหรือ พื้นที่แสดงศิลปะอย่าง Pier2 รถคันนี้ก็พาเราไปถึง
ค่าบริการคิดเป็นวัน วันละ 50NTD
วันธรรมดาให้บริการตั้งแต่ 10.00 นถึง 17.00 น. (รถออกทุก 60 นาที)
วันเสาร์อาทิตย์ให้บริการตั้งแต่ 10.00 นถึง 18.00 น. (รถออกทุก 30 นาที)
6. เรือเฟอร์รี่
เรือเฟอร์รี่เชื่อมต่อระหว่างในเมืองและเกาะน่ารักๆอย่าง Cijin
นอกจากอาหารทะเลอร่อยสดใหม่แล้ว เกาะนี้ยังมีหาดทรายสีดำละเอียดและเส้นทางปั่นจักรยานน่ารักๆรอให้เราไปชิลกัน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ถึง 25 นาที สามารถจ่ายค่าบริการด้วยบัตร iPass ได้ (ค่าบริการอยู่ที่ 15 ถึง 45NTD ขึ้นอยู่กับว่าขึ้น/ ลงท่าไหน)
7. เรือเป็ด (เรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก)
Cr: ภาพ: Kaohsiung City Government
แม้หน้าตาจะดูเป็นเรือแต่จริงๆแล้วยานพาหนะนี้เป็น 2in1 สามารถเดินทางไปได้ทั้งบนบกและบนน้ำ
เรือนี้พาเราชมเมืองและล่องไปยังแม่น้ำสายแห่งความรัก # Lover River หรือที่คนไต้หวันเรียกกันคล่องปากว่า Ai-He
เลือกออปชั่นนี้ได้ทั้งชมวิวในเมืองและวิวริมน้ำ แถมลุ้นตื่นเต้นเวลารถวิ่งลงน้ำอีกต่างหาก! (*≧ω≦*)
ค่าบริการอยู่ที่ 250NTD สามารถซื้อบัตรโดยสารได้ที่ Pier2 (C5) เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 10.00 น เรือให้บริการตั้งแต่ 11.00 นถึง 18.00 น
8.เรือล่องชมวิว
ล่องเรือชมวิวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำในยามค่ำคืน
บรรยากาศริมน้ำช่วงพลบค่ำของแม่น้ำ Ai-He หรือแม่น้ำสายแห่งความรักสวยแปลกตาต่างจากกลางวันมาก
เรือที่นี่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากเงียบดีแล้ว ยังไม่ทำร้ายธรรมชาติและไม่ก่อมลพิษ
สามารถเลือกจุดลงเรือได้ 2 แห่ง ทั้งที่แม่น้ำ Ai-He หรือ Pier 2 ค่าบริการ 150NTD
แต่ละเส้นทาง แต่ละท่า เวลาให้บริการไม่เหมือนกันลองเช็คดูกันก่อน
9.แท็กซี่
การท่องเที่ยวเกาสงมีการรวบรวมรายชื่อบริษัทแท็กซี่ที่ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
อัตราค่าบริการเฉลี่ยอยู่ที่ 500-600NTD/ ชั่วโมง/ คัน
แท็กซี่ 1 คันนั่งได้ 4 คน (ผู้ใหญ่) ราคาเช่าต่อ 4 ชั่วโมงตั้งไว้ที่สูงสุดไม่เกิน 2,400NTD หากใช้บริการเกิน 4 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อๆไปอยู่ที่ 500NTD
ตัดความกังวลใจเรื่องแท็กซี่คิดค่าบริการสูงเกินควรไปได้ สบายใจจัง
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://khh.travel
10.สกู๊ตเตอร์ / รถเช่ารายวัน
Cr ภาพ: www.car-plus.com.tw
การเดินทางในเมือง “เกาสง” ถือว่าสะดวกไม่มีความจำเป็นต้องเช่าสกู๊ตเตอร์หรือรถยนต์ส่วนตัว แต่หากต้องการก็มีหลายบริษัทให้บริการ
หากเลือกทางเลือกนี้ต้องเตรียมตัวมาจากที่เมืองไทยก่อน ต้องมีใบขับขี่สากล (ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์) นะคะ
อย่าลืมนำพาสปอร์ตมาแสดงคู่กันด้วยเวลาติดต่อเช่า
ราคาสกู๊ตเตอร์เริ่มต้นอยู่ที่ ~500NTD/วัน ส่วนรถยนต์ 4 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ~2,500NTD/ วัน
Cr ภาพ: Dplusguide.com
เห็นไหมคะว่าการเดินทางมาเที่ยว “เกาสง” สะดวกสบายและมีตัวเลือกมากมายจริงๆ
เอนทรี่หน้าจะพาไปเที่ยวสถานที่เที่ยวดีๆน่าสนใจ หลากหลายบรรยากาศ อย่าลืมติดตามกันไว้นะคะ
แวะไปดูภาพสวยๆกันก่อนได้ที่ >> IG: TaiwanGuru
แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้า ระหว่างนี้แวะไปพูดคุยกันได้ที่ Facebook เหมือนเดิม
Have a nice day กันทุกคนค่ะ (´。• ᵕ •。`) ♡